ศูนย์รับฝากความเสียใจ
มีเรื่องเล่าว่าในมุมหนึ่งของศูนย์การค้าใต้ดินสถานีไทเป มีสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งสามารถส่งจดหมายกลับไปยังอดีตให้แก่ คนที่ไม่อาจพบกันได้อีก และยังได้รับจดหมายตอบกลับมาได้ด้วย ที่แห่งนั้นมีชื่อว่า ศูนย์รับฝากความเสียใจ ที่แห่งนี้ไม่สามารถแก้ไขเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตได้ ทำได้เพียงเยียวยาหัวใจจากความเสียใจที่ผ่านไปแล้ว
ทุกวันพุธเวลาห้าโมงเย็นถึงหนึ่งทุ่มเป็นเวลาทำการ คุณจะไม่มีวันหาที่แห่งนี้เจอ หากแต่ที่แห่งนี้จะยอมให้คุณเจอ เมื่อได้พบก็แสดงว่าคุณคือผู้ถูกเลือกให้สามารถส่งจดหมายกลับไปได้
ไม่จำเป็นว่าคนที่ส่งให้จะต้องเสียชีวิตไปแล้ว แต่เรื่องราวทั้ง 5 ล้วนส่งให้คนที่จากไป เล่าเรื่องแบบแบ่งเป็นตอนสั้นๆ ของแต่ละตัวละคร แล้วขมวดรวมให้ทุกคนเกี่ยวข้องกันในเหตุการณ์หนึ่ง
เราอ่านแล้วรู้สึกว่าเป็นนิยายแนวอบอุ่นหัวใจที่ถูกต้อง ไปตามสเตปที่ควรจะเป็น จะว่ายังไงดีล่ะ คือมันไม่มีจุดพลิกผัน เกิดเรื่องราวในอดีตที่ทำให้เสียใจ กับสิ่งที่ไม่ได้ทำ อาจจะเป็นการไม่พูดคุยกัน การไม่ตอบรับคำถามอีกฝ่าย การทำอะไรหุนหันพลันแล่นไม่คิด ทำให้ต้องจากกันโดยที่ยังไม่ได้เคลียร์ใจ เกิดเป็นความคิดว่า ตอนนั้นเราไม่น่าทำแบบนั้น ถ้ารู้อย่างนี้จะทำแบบนี้ คิดเท่าไหร่ก็คาใจ เพราะแก้ไขไม่ได้ คู่กรณีก็ไม่อยู่แล้ว คิดว่าทุกคนบนโลกนี้ก็ต้องมีเรื่องที่เสียใจมากๆ ถ้ามีศูนย์แห่งนี้จริง ถึงแม้จะแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่ถ้าได้ส่งของที่ทำให้เราเคลียร์ใจให้เบาสบายได้ เป็นเราก็จะส่ง เพื่อที่จะเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไป ได้อย่างไม่ติดค้างอะไรในใจ ถึงแม้การมีอยู่ของศูนย์แห่งนี้จะดูเหนือธรรมชาติ แต่ก็กลมกลืนไปกับผู้คนที่ผ่านไปมาที่สถานีไทเป
อ้ายหมิน เด็กสาวเก็บจดหมายได้บนรถไฟ อยากส่งของให้พ่อที่จากไปแล้ว
หลีจยาถี เคยอาศัยอยู่กับปู่ในตอนเด็ก ชีวิตยากจนไม่มีเงินเรียน ไม่พูดคุยกับปู่จนกระทั่งจากลา
หลันโย่วฉี สาวท้องแก่ ส่งจดหมายถึงคนรักในอดีต เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่
จางถิงเยี่ยน ส่งจดหมายแทนคนอื่น เพื่อชดเชยผลกระทบจากสิ่งที่ลูกชายทำ
อี้จิ้ง ศิลปินดังที่หวาดกลัวกับอุบัติเหตุที่ตนเป็นต้นเหตุในอดีต
หงเฮ่า เจ้าหน้าที่ศูนย์รับฝากความเสียใจ ผู้รับหน้าที่นี้ต่อจากพ่อ แต่คราวนี้เขาเป็นคนได้รับจดหมายเสียเอง
สิ่งที่เราได้จากการอ่านเรื่องนี้คือ เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตเป็นเรื่องธรรมดา สำคัญคือทำปัจจุบันให้ดี จะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลังอีก
ผู้เขียน: ซื่ออี
ผู้แปล: รักสิริ
สำนักพิมพ์: แพรวสำนักพิมพ์
จำนวน 224 หน้า
#รีวิวหนังสือ #แนะนำหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #หนังสือดีบอกต่อ #นิยาย #วรรณกรรม #วรรณกรรมแปล #วรรณกรรมไต้หวัน #นิยายแปล #นิยายไต้หวัน #นวนิยายไต้หวัน #วรรณกรรมทั่วไป #QEDรีวิวหนังสือ
Link Copied