บิ๊กดาต้า มหาประลัย
เมื่อการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่เป็นภัยต่อสังคม
.
บิ๊กดาต้าในอีกมุมนึง ในแง่ที่เป็นอาวุธที่ร้ายกาจทำลายชีวิตคน บิ๊กดาต้าก็คือข้อมูลขนาดใหญ่ อาจจะเก็บรวบรวมข้อมูลหลายล้านคน แล้วนำไปวิเคราะห์แบ่งข้อมูลออกเป็นกลุ่มๆ เพื่อนำไปใช้หาผลประโยชน์ แอดอ่านแล้วรู้สึกว่าในอเมริกาเจริญก้าวหน้ากว่าเรามากๆ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็นำโมเดลคณิตศาสตร์มาเกี่ยวข้อง ตัวอย่างก็มีหลายเคส ยกมาบางเคสแล้วกัน
.
มีคำถามที่ว่าเราจะสามารถวัดผลการเรียนการสอนของนักเรียนได้หรือไม่ แล้วอะไรเป็นตัวแปรบ้าง เค้าจึงคิดว่าคนที่ได้รับการสอนที่ดีน่าจะได้คะแนนดีๆ นำมาสู่ระบบให้คะแนนครู แล้วจะวัดจากอะไรล่ะ ในตอนนั้นวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือนำคะแนนสอบมาคิด นักเรียนที่ทำคะแนนสอบได้มากกว่าเดิมน่าจะมีครูที่ดี เค้าเอาข้อมูลไม่กี่อย่างใส่เข้าไปในโมเดลคณิตศาสตร์ เมื่อผลลัพธ์ออกมาก็พบว่าครูหลายคนได้คะแนนต่ำ จึงถูกให้ออกในที่สุด แต่เราจะวัดแบบนั้นไม่ได้ ในกรณีที่ในห้องมีเด็กพิเศษเรียนร่วมด้วย หรือนักเรียนที่ได้คะแนนมากตั้งแต่แรก แล้วคะแนนไม่ได้เพิ่มขึ้นแล้ว ครูก็ได้คะแนนน้อยน่ะสิ ไหนจะตัวแปรอื่นอย่าง นักเรียนบางคนประสบปัญหาครอบครัว หรือเงินทอง การเจ็บป่วยไม่สบาย ระบบนี้จึงไม่มีความยุติธรรมเลย แล้วยังตรวจสอบไม่ได้เลย บริษัทพัฒนาระบบนี้ปิดวิธีการให้คะแนน ไม่มีใครรู้ว่าประเมินคะแนนจากอะไร แล้วทำไมเราต้องเชื่อด้วย
.
ระบบเครดิตที่เกี่ยวพันกันไปหมด ทั้งในศาล มหาวิทยาลัย ระบบประกัน การรับเข้าทำงาน คนบางคนอาจจะหางานทำไม่ได้ เพราะระบบคัดกรองใบสมัครเบื้องต้น ที่นำเชื้อชาติ รหัสไปรษณีย์ ความถูกต้องของไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ มาคิดคะแนน คนที่อยู่ในย่านที่มีแต่คนจน มีอาชญากรรมเยอะ อาจจะถูกคัดทิ้งเป็นใบแรกๆ เพราะเป็นไปได้ว่าคนๆ นั้นอาจจะสร้างอาชญากรรมซะเอง หรือการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่คิดแต่คะแนนสอบ สุดท้ายก็กลายเป็นคนคะแนนสูงๆ ไปแย่งเข้าอันดับแรกๆ อันดับท้ายๆ ยิ่งไม่มีคนสมัครเข้าไปอีก ธนาคารจะคอยมองหาเหยื่อที่ต้องการเงินกู้ โดยเสนอดอกเบี้ยสูงๆ อาจจะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องทำงานเป็นกะพร้อมเรียนไปด้วย ดูร้อนเงิน แล้วจะไม่ดูความสามารถในการจ่ายเงิน เพราะคิดแต่จะทำยังไงให้ได้กำไรมากที่สุด
.
ทุกอย่างทั้งหมดคือวงจรอุบาทว์ ระบบพวกนี้ทำให้คนจนยิ่งจน ถูกหลอกให้กู้เงินดอกสูงๆ จ่ายเบี้ยประกันแพงๆ แถมหางานทำไม่ได้ เราอ่านจนจบรู้สึกว่าคนเขียนน่าจะไปทำงานในรัฐบาล แต่ถ้าเราเอาข้อมูลบิ๊กดาต้าไปช่วยเหลือคนจน เพิ่มโอกาสทางการศึกษามันก็ได้แหละ แต่ไม่ทำกัน จะเอาแต่ผลประโยชน์กันไง สุดท้ายโมเดลพยากรณ์นี่มันก็แค่เอาข้อมูลในอดีตมาใช้ แถมเอามาใช้ไม่กี่อย่าง มันไม่ได้วิเศษอย่างที่คิด แถมบางอย่างเอาอะไรมาเป็นเกณฑ์ไม่รู้ ขึ้นอยู่กับคนคิดโมเดลนั่นแหละ เพราะอย่างนั้นเลยไม่การันตีว่าที่มันพยากรณ์จะถูก
.
ยกตัวอย่างอีกกรณีนึง ก่อนหน้านี้เราได้รู้ว่าพี่มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ของเราถูกสอบสวนในกรณีบริษัทนึงนำข้อมูลผู้ใช้ไปหาประโยชน์ทางการเมือง บริษัทพวกนี้อาจจะแบ่งข้อมูลออกเป็นกลุ่มๆ กลุ่มคนรักสุขภาพ กลุ่มคนรักสัตว์ กลุ่มหลากหลายทางเพศ แล้วเสนอนโยบายที่แตกต่างจากพรรคการเมืองเดียวกันให้แต่ละคน หมายความว่าเราจะเห็นโฆษณาที่ถูกปรับมาให้เข้ากับเราแล้ว แล้วเราก็จะเลือกเพราะว่าเค้ามีแนวคิดเดียวกับเรา เหนือชั้นสุด
.
ในหนังสือมีอีกหลายเคส เป็นเรื่องที่พวกเราควรรู้ไว้ อนาคตมันจะต้องมีผลกระทบกับเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอย่างแน่นอน
.
หนังสือจาก TKpark อุทยานการเรียนรู้
Link Copied