อะไรที่เยอะเกินไป จงตัดใจที่จะไม่ทำ ?
.
เป็นหนังสือที่บอกให้เราทำทุกอย่างเพื่อประสบความสำเร็จจริงๆ บางอย่างก็ฝืนความรู้สึก ต้องบอกปูมหลังคนเขียนก่อน จะได้เข้าใจว่าทำไมเขียนหนังสือออกมาแนวๆ นี้ วัยเด็กของคนเขียนถูกกลั่นแกล้ง ไม่มีเพื่อน ย้ายโรงเรียน 5 โรงเรียน เรียนไม่จบ จบมาก็ทำธุรกิจเลยแล้วก็ประสบความสำเร็จ เวลาทำอะไรเค้าจะทำทีละอย่าง เช่น อยากเก่งภาษาอังกฤษเค้าก็จะทำอยู่อย่างเดียว เล่าถึงคนต่างๆ ที่ทำอะไรเฉพาะที่จำเป็น ทำธุรกิจเก่งแต่ทำบัญชีไม่เป็น ก็ใช้เงินแก้ปัญหา เค้าเน้นเลยว่าถ้าอะไรแก้ปัญหาด้วยเงินได้ให้ใช้เงินก่อน มีสามเรื่องเลยที่เราไม่ชอบ จะว่าอคติส่วนตัวหรืออะไรก็ได้แหละ
.
1. บอกว่าให้เลิกคบเพื่อนสมัยเด็ก เพราะกว่าจะโตมาทัศนคติก็ไม่ตรงกันแล้ว เวลาเราจะทำอะไรจะคอยมาถามนู่นนั่น ทำแบบนั้นแบบนี้จะดีเหรอ อย่าดีกว่า เหมือนเป็นตัวถ่วง // แอดไม่เคยมีเพื่อนแบบนี้อ่ะ มีแต่จะส่งเสริมกัน เค้าเขียนแบบนี้ก็ใช่น่ะสิ ก็คนเขียนแทบไม่มีเพื่อนเลยหนิ
.
2. ย้ายออกไปอยู่คนเดียว อย่าอยู่บ้านพ่อแม่ พ่อแม่จะคอยขัดขวางความสำเร็จเพราะเห็นเราเป็นเด็กอยู่ตลอด // แอดว่าสำหรับคนที่มีคู่มั้ง ถ้าเป็นโสดอยู่บ้านพ่อแม่ก็ดีจะได้ดูแลด้วย ทุกบ้านเค้าก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น บ้านแอดให้อิสระมากตั้งแต่เด็กๆ แล้ว อยากเรียนอะไรก็เรียน อยากเป็นอะไรก็เป็น ทำอะไรทำไปเลย แล้วที่ไม่ชอบเลยเขียนว่าถึงย้ายออกมาอยู่แต่ก็สามารถส่งผักราคา 30,000 เยนไปให้ที่บ้านได้ เอิ่ม วัดความกตัญญูด้วยเงิน? ดูผิดที่ผิดทาง
.
3. โพส facebook ให้ตัวเองดูดีทุกๆ วัน คิดว่าจะหาเงินจากโพสนี้ได้เท่าไหร่ มีแอคแยกสำหรับการนี้โดยเฉพาะ // เห้ย ต้องแบบนั้นเลยเหรอวะ เฟคอ่ะ
.
ส่วนเรื่องอื่นก็ทั่วๆ ไป เค้าให้ลดการตัดสินใจให้มากที่สุดเพื่อคงพลังแห่งความมุ่งมั่นไว้ ซื้อเสื้อผ้าปีละ 2 ครั้ง เช็คโซเชี่ยลแค่ตอนบ่าย ไปลงคอร์สสัมนาธุรกิจ เลือกเฉพาะแพงๆ จะได้เจอ connection ดีๆ ซึ่งหลายครั้งมากที่บอกว่าลดจำนวนการตัดสินใจเพิ่มพลังความมุ่งมั่น ไอ้ความมุ่งมั่นนี่คืออะไรวะ ก็แค่ตัดสินใจบ่อยเลยเหนื่อยป่ะ เป็นหนังสือที่ทำทุกอย่างเพื่อเงินอ่ะ
.
เล่มนี้ไม่โดนอ่ะ จบปึ้ง
#รีวิวหนังสือ
Link Copied