ลิงพาดกลอน
ลิงพาดกลอน

“ถ้าคุณตกระกำลำบากถึงขีดสุด เหลือทางรอดอยู่ทางเดียว แต่กลับมีคนใช้ทางนั้นหักหลังแล้วตักตวงผลประโยชน์ซ้ำอีก คุณจะตอบโต้อย่างไร”

หลังจากได้รับข่าวร้ายการตายอย่างมีเงื่อนงำของเพื่อนรัก ไตรตรึงษ์รีบเดินทางกลับไปบ้านเกิดที่ภาคใต้ นอกจากจะไปร่วมงานศพแล้ว สิ่งที่เขาต้องการคือตามหาเงื่อนงำที่ว่า การที่เขาเป็นตำรวจไม่สำคัญเท่าเส้นสายที่มีในพื้นที่ ตระกูลของเขาเป็นผู้มีอิทธิพลที่ใครก็รู้จัก ขนาดตำรวจยังต้องเกรงใจ ทำให้เขาได้รับข้อมูลจาก สภ. บ้านหลาว ไม่ยาก

ในสมัยเด็กไตรตรึงษ์เคยมีชื่อว่ากบี่แปลว่าลิง เป็นลูกคุณหนูอยู่แต่บ้านใหญ่โตไม่ค่อยรู้เรื่องภายนอก วันนึงได้พบกับไอ้โคร่ง เด็กข้างบ้านที่ดูเป็นผู้ใหญ่เกินวัย เรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวทำให้มันต้องแข็งแกร่งเพื่อปกป้องผู้หญิงในบ้าน ในตอนนั้นการที่กบี่เป็นเพื่อนกับไอ้โคร่งเป็นการทำให้เขาเห็นระดับชนชั้นสังคม เห็นความไม่ยุติธรรมรอบตัว เขาทั้งนับถือไอ้โคร่งและเห็นเป็นคู่แข่ง เมื่อไอ้โคร่งบอกว่าจะเป็นตำรวจ เขาจึงไม่ลังเลที่จะเป็นตำรวจด้วยเหมือนกัน

เมื่อสืบให้ลึกเข้าไปไตรตรึงษ์กลับต้องไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง เขาพยายามคิดว่าคนร้ายเลือกเหยื่อจากอะไร พร้อมไขปริศนาที่ทิ้งไว้ให้ ทำไมคนร้ายต้องลำบากขนาดฆ่าคนด้วยวิธีแปลกพิสดาร ต้องการอะไร เป้าหมายที่แท้จริงคือใคร จนตัวเขาเองต้อง....

อ่านจบแล้วมีความรู้สึกหลายอย่างเกิดขึ้น ใครๆ ก็รู้ว่าระบบยุติธรรมของบ้านเรามีปัญหา ที่เขาพูดว่าคุกมีไว้ขังคนจนไม่เกินจริง ตำรวจถูกด่าว่าเป็นที่ไม่เชื่อถือของสังคม ทั้งที่ตำรวจดีอาจจะมีอยู่แต่พอโดนสังคมที่อยู่หล่อหลอม ก็อาจจะกลายเป็นคนอีกฝั่ง ทำดีแค่ไหนไม่สำคัญว่าเป็นคนของใคร จริงๆ แล้วก็ต้องมาย้อนดูตัวเราเองด้วยเหมือนกัน เราต้องการคนดีแต่ไม่มีใครบอกว่าฉันจะเป็นคนดี คนดีแล้วดีสำหรับใครล่ะ? ถ้าหากช่วยคนอื่นแล้วครอบครัวตัวเองต้องเดือดร้อนยังจะเลือกช่วยไหม เรายังจะสามารถรักษาความเป็น "คนดี" อยู่ได้อีกไหม

หนังสือเล่มนี้เล่นกับจิตใจคนอ่านมาก ประโยคที่ตัวละครพูดแต่ละอย่าง มันเจ็บจี๊ดเลย มันทำให้เรามาคิดว่า การสร้างความยุติธรรมขึ้นมาเองผิดไหม อย่างปล้นคนรวยไปให้คนจน (นี่แอดพูดเองในเรื่องไม่มีหรอก) โดนเขาฆ่าเลยฆ่าเขาบ้าง หรือคนบางกลุ่มที่เกิดมาก็มีสถานะที่เลือกไม่ได้ ถูกสร้างความเกลียดชังให้ก่อขึ้นในใจ แล้วยังมีคนไปหาผลประโยชน์จากเขาอีก มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมมนุษย์ถึงทำต่อกันได้ขนาดนั้น อืม... ไม่อยากสปอยมากกว่านี้แล้วล่ะ เดี๋ยวจะไปแตะเนื้อหาสำคัญเอา

มีกลิ่นอายวายเล็กๆ ระหว่างไตรตรีงษ์กับไอ้โคร่งด้วย คำพูดบางประโยคมันชวนคิดลึกจริงๆ นะ

เป็นหนังสือที่ออกมานานแล้ว แต่ไม่ว่าจะอ่านเมื่อไหร่ก็ยังทันสมัยอยู่ เพราะสังคมไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปจากหนังสือเลยยังไงล่ะ

ผู้เขียน : ปราปต์
สำนักพิมพ์ : แพรวสำนักพิมพ์
จำนวน 392 หน้า

#รีวิวหนังสือ #แนะนำหนังสือ #นิยาย #วรรณกรรมไทย #สืบสวนสอบสวน #QEDรีวิวหนังสือ
Link Copied
- ขอนอกเรื่องนิดนึง เมื่อวันที่ 9 มี.ค.62 ได้มีโอกาสไปทัวร์พิพ...
- ลิงพาดกลอน “ถ้าคุณตกระกำลำบากถึงขีดสุด เหลือทางรอดอยู่ทาง...
- เมนูกรุ่น อุ่นไอรัก มังงะแนวอบอุ่นหัวใจ หลังจากที่ครอบครั...
- รสไทย(ไม่)แท้: ถอดรูปทิพย์อาหารไทยในสนามการเมืองวัฒนธรรม ...
- เมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก เอาหนังสือเก่าๆ มาเล่าให้ฟัง . มี...